สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดเงิน บังคับคดีครบวงจรโดยทีมทนายความมืออาชีพ

เมื่อชนะคดีแต่ยังไม่ได้รับเงิน: ปัญหาที่หลายคนเจอ
การฟ้องคดีและชนะในศาลเป็นเพียงก้าวแรกของความยุติธรรม หลายครั้งเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้คู่กรณีหรือลูกหนี้ต้องชำระหนี้หรือค่าเสียหายให้เรา แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้หมายความว่า คุณจะได้เงินคืนทันที ปัญหาสำคัญคือคู่กรณีบางราย เพิกเฉย ไม่ยอมชำระหนี้ หรือ อ้างว่าไม่มีทรัพย์สิน ซึ่งทำให้ผู้ชนะคดีต้องเสียทั้งเวลาและโอกาสในการได้เงินคืน
ที่นี่เองที่กระบวนการ “บังคับคดี” เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพื่อเปลี่ยนคำพิพากษาที่อยู่บนเอกสาร ให้กลายเป็น ผลลัพธ์จริง ผ่านการสืบหาทรัพย์สินและยึดทรัพย์เพื่อนำไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามกฎหมาย
การบังคับคดีคืออะไร
การบังคับคดี (Enforcement of Judgment) หมายถึง กระบวนการตามกฎหมายที่เจ้าหนี้หรือผู้ชนะคดีสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ของลูกหนี้หรือจำเลยที่แพ้คดี นำมาชดใช้หนี้หรือค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล
ตัวอย่างเช่น หากศาลพิพากษาให้คู่กรณีต้องชำระเงิน 1 ล้านบาท แต่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย ทีมทนายความสามารถยื่นคำร้องขอบังคับคดี โดยอาศัยกระบวนการ สืบทรัพย์–ยึดทรัพย์–ขายทอดตลาด เพื่อให้คุณได้รับเงินคืนจริง
บริการสืบทรัพย์: รู้ให้ชัดว่าลูกหนี้มีอะไร
ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดี จำเป็นต้องรู้เสียก่อนว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินอะไรบ้าง และอยู่ที่ไหน บริการสืบทรัพย์ของทีมทนายความจะช่วยคุณค้นหาข้อมูลที่จำเป็น เช่น
-
สืบที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ : ตรวจสอบทะเบียนทรัพย์สินว่ามีชื่อคู่กรณีเป็นเจ้าของหรือไม่
-
สืบเงินในบัญชีธนาคาร : ตรวจสอบว่าลูกหนี้มีบัญชีเงินฝากอยู่ธนาคารใดและมีวงเงินเท่าไร
-
สืบหาที่ทำงานหรือแหล่งรายได้ : เพื่อนำไปอายัดเงินเดือนหรือค่าจ้างจากนายจ้าง
-
สืบหาที่อยู่ปัจจุบัน : สำหรับติดตามตัวลูกหนี้เพื่อการบังคับคดี
ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นพื้นฐานในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้
บริการบังคับคดี: เปลี่ยนคำพิพากษาเป็นเงินสด
เมื่อทราบแล้วว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินอะไร ขั้นต่อไปคือกระบวนการบังคับคดี โดยทีมทนายความสามารถดำเนินการแทนคุณได้ครบวงจร เช่น
-
รับมอบอำนาจตั้งเรื่องบังคับคดี
ทนายความจะเป็นผู้จัดเตรียมเอกสาร ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อเริ่มต้นกระบวนการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
-
การยึดทรัพย์สิน
-
ยึดบ้าน ที่ดิน หรือคอนโด
-
ยึดรถยนต์หรือยานพาหนะต่างๆ
-
ยึดทรัพย์สินภายในบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร
-
-
การอายัดทรัพย์สิน
-
อายัดเงินในบัญชีธนาคาร : เงินที่ลูกหนี้ฝากอยู่จะถูกอายัดเพื่อชำระหนี้
-
อายัดเงินเดือน : หากลูกหนี้มีงานทำ สามารถยื่นคำร้องให้นายจ้างหักเงินเดือนส่งให้เจ้าหนี้โดยตรง
-
-
การขายทอดตลาด
-
เมื่อมีการยึดทรัพย์แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด
-
ทีมทนายความจะเข้าร่วมดูแลการขายทอดตลาด ตรวจสอบการคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างถูกต้อง
-
รับเงินแทนลูกค้าจากการขายทอดตลาดและนำส่งต่อให้ผู้ชนะคดี
-
ทำไมควรใช้บริการสืบทรัพย์–บังคับคดีโดยทนายความ
-
ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน : การบังคับคดีต้องอาศัยกระบวนการที่ซับซ้อน หากดำเนินการผิดพลาดอาจเสียสิทธิได้
-
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ : ทีมทนายความมีความรู้และเครือข่ายในการตรวจสอบทรัพย์ ทำให้ได้ข้อมูลแม่นยำ
-
ลดภาระและความยุ่งยากของลูกค้า : คุณไม่จำเป็นต้องไปศาลหรือสำนักงานบังคับคดีด้วยตัวเอง
-
เพิ่มโอกาสได้รับเงินคืนจริง : เพราะทีมงานจะติดตามและผลักดันทุกขั้นตอนจนถึงการขายทอดตลาด
ตัวอย่างสถานการณ์ที่เหมาะสมกับบริการนี้
-
คุณชนะคดีฟ้องเรียกหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย
-
ศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่คู่กรณีอ้างว่าไม่มีเงิน
-
คุณมีเช็คหรือสัญญากู้ยืมที่ศาลตัดสินแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน
-
ต้องการสืบหาทรัพย์สินที่ซ่อนอยู่ เช่น ที่ดิน รถ หรือเงินในบัญชีธนาคาร
-
ต้องการเร่งรัดให้เกิดการขายทอดตลาดเพื่อนำเงินคืนมาใช้จริง
การชนะคดีในศาลเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ อีกครึ่งหนึ่งคือการทำให้ คำพิพากษาเกิดผลลัพธ์จริง ผ่านกระบวนการสืบทรัพย์และบังคับคดี หากคุณกำลังเจอสถานการณ์ที่ลูกหนี้หรือคู่กรณีไม่ยอมชำระหนี้ บริการ สืบทรัพย์–บังคับคดี คือคำตอบที่จะช่วยคุณได้ครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสอบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดเงินเดือน ไปจนถึงการขายทอดตลาดและรับเงินมาให้คุณอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เพราะในที่สุดแล้ว คำพิพากษาจะมีค่า ก็ต่อเมื่อคุณได้รับเงินหรือทรัพย์สินคืนจริง และทีมทนายความที่มีประสบการณ์จะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพที่สุด