ตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงานที่ดิน

ทำไมต้องตรวจสอบทรัพย์สินก่อนการซื้อขาย

การซื้อหรือได้รับทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ดิน หุ้น หรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญต่อชีวิตในระยะยาว หลายครั้งผู้ซื้ออาจคิดว่าการตรวจสอบเพียงสัญญาซื้อขายหรือคำพูดของผู้ขายก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง ทรัพย์สินทุกประเภทอาจมีภาระหรือข้อจำกัดทางกฎหมายซ่อนอยู่ ซึ่งหากไม่ได้ตรวจสอบก่อน อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ฟ้องร้องทางกฎหมาย ทรัพย์สินถูกอายัด หรือแม้กระทั่งการสูญเสียสิทธิในทรัพย์สินนั้น

ดังนั้น การตรวจสอบทรัพย์สินล่วงหน้า (Due Diligence) จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยง และทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า ทรัพย์สินที่กำลังจะได้มานั้นปลอดภัย ถูกต้อง และไม่มีข้อพิพาท

ขั้นตอนการตรวจสอบทรัพย์สิน

  1. การตรวจสอบทรัพย์สินที่สำนักงานที่ดิน

    สำหรับบ้านหรือที่ดิน การตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ โดยจะช่วยให้ทราบว่า

    • เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงคือใคร

    • ที่ดินหรือบ้านมีการจดจำนอง ค้ำประกัน หรือถูกอายัดไว้หรือไม่

    • มีภาระจำยอม สิทธิของบุคคลอื่น หรือข้อจำกัดการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือไม่

    • ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโฉนด เช่น เนื้อที่จริง ตำแหน่งที่ตั้ง ขอบเขตการครอบครอง

    ข้อมูลเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีความหรือซื้อทรัพย์สินที่มีปัญหา

  2. การตรวจสอบทรัพย์สินที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

    ในกรณีซื้อหุ้น หรือลงทุนในบริษัท การตรวจสอบข้อมูลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่า

    • บริษัทมีสถานะทางกฎหมายเป็นอย่างไร จดทะเบียนถูกต้องหรือไม่

    • โครงสร้างผู้ถือหุ้นและกรรมการเป็นใครบ้าง

    • มีข้อพิพาท คดีความ หรือสถานะ “เสี่ยง” ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือไม่

    • งบการเงินหรือผลประกอบการเป็นอย่างไร

    การตรวจสอบลักษณะนี้จะช่วยป้องกันการลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฉ้อโกง

  3. การให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สิน

    นอกจากการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานรัฐแล้ว การปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทรัพย์สินยังช่วยให้ผู้ซื้อเข้าใจถึงสิทธิ หน้าที่ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น

    • เงื่อนไขในสัญญาซื้อขายที่อาจไม่เป็นธรรม

    • ภาระภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบ

    • ความเป็นไปได้ในการโอนกรรมสิทธิ์หรือการใช้สิทธิในทรัพย์สิน

    • การป้องกันปัญหาในอนาคต เช่น การแบ่งมรดก ข้อพิพาทกับบุคคลอื่น

ทรัพย์สินที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อ

  • บ้านและที่ดิน : ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ ขอบเขตที่ดิน ภาระผูกพัน และการใช้ประโยชน์ตามกฎหมาย

  • หุ้นหรือกิจการ : ตรวจสอบโครงสร้างบริษัท งบการเงิน และความถูกต้องของการถือหุ้น

  • สินทรัพย์ประเภทอื่นๆ : เช่น รถยนต์ ทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิการเช่า ฯลฯ ที่อาจมีภาระผูกพันหรือสัญญากับบุคคลที่สาม

ตัวอย่างปัญหาที่เกิดจากการไม่ตรวจสอบทรัพย์สิน

  1. ซื้อที่ดินแล้วพบว่าที่ดินถูกจำนองไว้กับธนาคาร ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้

  2. ซื้อบ้านแล้วมีผู้อื่นอาศัยอยู่โดยอ้างสิทธิการเช่าตามกฎหมาย

  3. ลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทหนึ่ง แต่ภายหลังพบว่าบริษัทมีหนี้สินจำนวนมากและอยู่ระหว่างฟ้องร้อง

  4. ซื้อที่ดินที่มีภาระจำยอม ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างหรือใช้ประโยชน์ได้ตามที่ต้องการ

กรณีเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายทั้งทางการเงินและเวลาแก่ผู้ซื้อ

เหตุผลที่ควรใช้บริการตรวจสอบทรัพย์สินกับผู้เชี่ยวชาญ

  • ลดความเสี่ยง : ทราบปัญหาก่อนลงนามซื้อขายจริง

  • ประหยัดเวลา : ผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว

  • มั่นใจในความถูกต้อง : ข้อมูลที่ได้รับเป็นทางการและสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้

  • ได้รับคำแนะนำด้านกฎหมาย : เพื่อให้การซื้อขายหรือการลงทุนราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย

การตรวจสอบทรัพย์สินไม่ใช่ขั้นตอนที่เกินความจำเป็น แต่เป็น สิ่งที่ควรทำทุกครั้งก่อนการซื้อขายหรือลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน การตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือการขอคำปรึกษาด้านกฎหมายจากผู้เชี่ยวชาญ การลงทุนหรือการซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงไม่ควรถูกตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลไม่ครบถ้วน

หากท่านไม่แน่ใจว่าทรัพย์สินที่ท่านกำลังจะซื้อหรือได้รับมานั้น มีความจำเป็นต้องตรวจสอบเบื้องหลังหรือทางกฎหมายก่อนหรือไม่ เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการตรวจสอบทรัพย์สินอย่างครบวงจร เพื่อให้ทุกการตัดสินใจของท่านปลอดภัยและมั่นใจได้ในระยะยาว

สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่

ส่งเมล์

info@champlawfirm.co.th

โทร

065 6060622

แชทไลน์

ID: @champlawfirm

รีวิวจากลูกค้าของเรา